วันศุกร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

Mulberry หม่อน ไม้ผลมหัศจรรย์ (1)

ขายต้นหม่อน Mulberry ผลหม่อน ใบหม่อน ชาใบหม่อน  โทร.0896422465 Line : daam999 Facebook : daam watch

(บทความในบล็อกนี้มีลิขสิทธิ์คุ้มครองตามกฏหมาย การคัดลอกส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดไปใช้ประโยชน์ต้องได้รับความยินยอมจากผู้เขียน)

ไม้ผลยืนต้น ผลเล็กๆ แต่อุดมไปด้วยคุณค่ามหัศจรรย์ ทั้ง ผล ใบ ต้น จนถึงราก ภูมิปัญญาชาวจีนรู้จักใช้ประโยชน์จากหม่อน หรือ มัลเบอรี่ ในฐานะสมุนไพรบำรุงสุขภาพมานับพันปี บอกเล่าสรรพคุณต่อเนื่องกันมารุ่นต่อรุ่นจนถึงปัจจุบัน เมื่อผนวกกับองค์ความรู้และวิยาการงานวิจัยสมัยใหม่ ยิ่งทำให้วงการสุขภาพตื่นตะลึงกับประโยชน์อันหลากหลายของหม่อน หรือ มัลเบอรี่ กันมากขึ้น

หม่อน หรือ Mulberry กับคุณค่ามหัศจรรย์



แต่เดิม หม่อน เป็นพืชที่ปลูกในเอเชียและอเมริกาเหนือเพื่อใช้ประโยชน์จากใบเป็นหลัก ใบหม่อนเป็นอาหารประเภทเดียวที่หนอนไหมกิน

ด้วยรสสัมผัสอันหวานละมุนปนรสเปรี้ยวและประโยชน์ด้านสุขภาพอันมากมาย ทำให้หม่อนกระจายสู่ความนิยมของผู้คนไปทั่วโลก

วงการแพทย์ของจีนใช้ประโยชน์จากหม่อนเป็นยารักษาโรคต่างๆมาหลายพันปี ทั้งโรคหัวใจ เบาหวาน โลหิตจางและโรคไขข้อ


ผลหม่อนกลายเป็นวัตถุดิบในอาหารของคนยุคปัจจุบันหลายอย่าง ทั้งไวน์ ชา แยม หรือแม้กระทั่งตากแห้ง แปรรูปเป็นของทานเล่นและลูกหม่อนบรรจุกระป๋อง

เท่าที่มีการสำรวจพบว่าหม่อนในโลกนี้มีอยู่ทั้งสิ้น24 สายพันธุ์ แต่ที่นิยมปลูกอย่างแพร่หลายมีอยู่3 สายพันธุ์คือผลสีดำ แดง และขาว

ส่วนต่างๆของต้นหม่อน ไม่จะเป็นกิ่ง ใบ ราก และผล ภูมิปัญญาการแพทย์แผนจีนรู้จักนำมาใช้เป็นสมุนไพรได้ทั้งต้น

ข้อมูลทางโภชนาการของผลหม่อน


ผลหม่อนสด1ถ้วยตวงหรือประมาณ140กรัม ให้พลังงานเพียง60แคลอรี่ จัดอยู่ในกลุ่มผลไม้ให้พลังงานต่ำ มีน้ำเป็นส่วนประกอบ88% มีคาร์โบไฮเดรต9.8% ใยอาหาร1.7% โปรตีน1.4% ไขมัน0.4%

ผลหม่อนแห้งก็เป็นที่นิยมมาช้านานลักษณะเนื้อสัมผัสคล้ายลูกเกด ผลหม่อนเมื่อถูกทำให้แห้ง จะมีคาร์โบไฮเดรต70% ใยอาหาร14% โปรตีน12% และไขมัน3% จากข้อมูลโภชนาการดังกล่าว ผลหม่อน จัดว่าเป็นผลไม้ที่ให้โปรตีนสูงที่สุดเมื่อเทียบกับผลไม้ตระกูลเบอรี่ด้วยกัน


คาร์โบไฮเดรตในผลหม่อน


ผลหม่อนสด1ถ้วยตวงมีคาร์โบไฮเดรต9.8% หรือ14กรัม คาร์โบไฮเดรตส่วนใหญ่อยู่ในรูปของน้ำตาล เช่นกลูโคสและฟรุคโตส มีแป้งและใยอาหารเป็นส่วนประกอบรองลงมา
ใยอาหารในผลหม่อน


ผลหม่อนเป็นแหล่งใยอาหารชั้นดีคือ1.7%โดยน้ำหนักผลสด ใยอาหารมีครบทั้ง2ชนิด ในสัดส่วนที่เหมาะสม คือชนิดละลายน้ำ25%อยู่ในรูปของเพคติน และไม่ละลายน้ำ75%ในรูปของลิกนิน ความสำคัญของใยอาหารคือช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้ครบสมบูรณ์ซึ่งทำให้โคเลสเตอรอลตัวร้ายลดลง และลดความเสี่ยงของหลายๆโรค



วิตามินและแร่ธาตุในผลหม่อน


ผลหม่อนอุดมไปด้วยวิตามินซี ธาตุเหล็ก เป็นแหล่งสำคัญของวิตามินและธาตุอื่นๆอีกหลากหลายดังต่อไปนี้

วิตามินซี สารอาหารที่จำเป็นต่อสุขภาพผิวและช่วยให้การทำงานของอวัยวะต่างๆในร่างกายดำเนินไปอย่างถูกต้องสมบูรณ์

เหล็ก แร่ธาตุสำคัญที่ช่วยการทำงานของระบบต่างๆในร่างกาย โดยเฉพาะระบบการถ่ายเทอ็อกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์ต่างๆ

วิตามินเค1หรืออีกชื่อที่รู้จักกันคือฟิลโลควิโนน (phylloquinone) มีคุณสมบัติป้องกันเลือดจับตัวเป็นลิ่มและบำรุงกระดูกให้แข็งแรง

โปแตสเซียม ซึ่งเชื่อกันว่าช่วยลดความดันโลหิตและลดอัตราเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ

วิตามินอี สารต้านอนุมูลอิสระอีกตัวที่ช่วยปกป้องเซลล์และลดการสึกหรอของเซลล์อันเกิดจากการคุกคามของอนุมูลอิสระ




พฤกษเคมีในผลหม่อน



จากสีม่วงแดงจนถึงดำคล้ำของผลหม่อนบอกเราได้ว่าผลหม่อนอุดมไปด้วยพฤกษเคมีที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายจำนวนมาก คือแอนโธไซยานินส์ (Anthocyanins) หนึ่งในยอดนักปกป้องเซลล์ กลุ่มต้านอนุมูลอิสระที่คอยยับยั้งการเกิดออกซิเดชั่นของ LDL โคเลสเตอรอล ปฏิกิริยาเคมีที่ทำให้โมเลกุลของเซลล์มีการสูญเสียอิเล็กตรอนจนไขมันตัวนี้ออกเพ่นพ่านทำร้ายร่างกายเรา แอนโธไซยานินส์ยังเป็นเกราะช่วยลดการเกิดโรคหัวใจด้วย แอนโธไซยานินส์ที่มีอยู่ในผลหม่อน ส่วนใหญ่เป็นไซยานิดิน (Cyanidin) สารหลักในกลุ่มแอนโธไซยานินส์

สารสำคัญอีกตัวที่มีอยู่ในผลหม่อนคือโคลโรเจนิค แอซิด(Chlorogenic acid) สารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่มากในผลไม้และผักหลายชนิด เป็นสารให้ความสุข สร้างสมาธิ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง คุณสมบัติสำคัญของ Chlorogenic acid คือ ชะลอการหลั่งกลูโคสเข้าสู่กระแสเลือด ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ป้องกันโรคเบาหวานชนิดที่ 2 (Type-2 Diabetes, Glucose Management and Metabolic Syndrome) โดยเข้าไปยับยั้งการผลิตน้ำตาลในเซลล์ตับ

ในผลหม่อนยังมี รูทิน (Rutin) สารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูงซึ่งเชื่อกันว่าอาจช่วยป้องกันและบรรเทาโรคเรื้อรังต่างๆ เช่นมะเร็ง เบาหวาน และโรคหัวใจ

ไมริเซติน (Myricetin) สารสำคัญที่นักวิจัยเชื่อว่าอาจป้องกันมะเร็งบางประเภทได้

สายพันธุ์หม่อน แม้ว่าจะอยู่ในสปีชี่เดียวกัน แต่สารอาหารอาจแตกต่างกันไปตามสีของผลหม่อน สียิ่งเข้มคือสัญญาณบอกว่าสารต้านอนุมูลอิสระยิ่งมีศักยภาพสูง

ผลหม่อนกับประโยชน์ต่อสุขภาพ


คุณสมบัติในสารต่างๆในผลหม่อนนับเป็นความหวังของมนุษยชาติในการบำบัดโรคเรื้อรังที่กำลังหาหนทางกันอยู่ในขณะนี้ โดยเฉพาะโรคเรื้อรังต่างๆ เช่นโรคหัวใจ เบาหวาน และมะเร็ง


ผลหม่อนช่วยลดโคเลสเตอรอลตัวร้าย


โคเลสเตอรอลคือไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย พบแทรกอยู่ในเซลล์ทุกเซลล์ อย่างไรก็ตาม หากมีปริมาณมากเกินไปก็ก่อผลเสียต่อสุขภาพ และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ ผลการทดลองในสัตว์พบว่าหม่อนสามารถลดปริมาณโคเลสเตอรอลในร่างกายได้ และยังอาจช่วยปรับสมดุลย์ระหว่างโคเลสเตอรอลตัวดี(HDL) กับตัวร้าย (LDL) ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมด้วย

ผลการทดลองในหลอดทดลองยังแสดงให้เห็นว่าหม่อนช่วยลดการก่อตัวของไขมันในตับได้ด้วย ซึ่งมีผลให้ตับแข็งแรง
ผลหม่อนช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด



ปัญหาของผู้ป่วยเบาหวานคืออ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงของน้ำตาลในกระแสเลือดและต้องระมัดระวังในการรับประทานอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาล ในผลหม่อนมีสารตัวหนึ่งที่เรียกว่า DNJ (Deoxynojirimycin) ที่ช่วยยับยั้งเอ็นไซม์ ในลำใส้ตัวหนึ่งไม่ให้ย่อยแป้งและน้ำตาล DNJ จึงเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยเบาหวานเพราะช่วยให้น้ำตาลซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้น้อยหลังจากรับประทานอาหาร




ผลหม่อนช่วยลดความเสี่ยงมะเร็ง


ความเครียดเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ร่างกายเพิ่มกระบวนการออกซิเดชั่นที่ทำให้เซลล์และเนื้อเยื่อเสียหาย นำไปสู่โอกาสในการเกิดมะเร็งสูงขึ้น เป็นเวลานับพันปีแล้วที่ภูมิปัญญาแพทย์แผนจีนใช้หม่อนในการรักษาสุขภาพผล

การทดลองในสัตว์ของวิทยาการสมัยใหม่พบว่าสารต้านอนุมูลอิสระในหม่อนช่วยลดกระบวนการออกซิเดชั่นภายในเซลล์ อันมีสาเหตุมาจากความเครียดได้ดีซึ่งมีผลโดยตรงต่อการลดความเสี่ยงมะเร็งด้วย
 ผลหม่อนอุดมไปด้วย ฟิโนลิค ฟลาโวนอยด์ ไฟโตเคมิคอล ที่สำคัญตัวหนึ่งซึ่งเรียกว่า แอนโธไซยานินส์ มีผลการศึกษาทางวิชาการระบุว่าผลไม้ในกลุ่มเบอรี่มีผลดีต่อสุขภาพ มีฤทธิ์ต้านมะเร็ง ช่วยชลอวัย รักษาโรคเกี่ยวกับระบบประสาท ลดการอักเสบ ลดเบาหวาน และการติดเชื้อจากแบคทีเรีย

ผลหม่อนยังมีสารเรสเวอราทรอล สารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มโพลีฟีนอล ฟลาโวนอยด์ สารเรสเวอราทรอล ช่วยป้องกันและปกป้องโรคเกี่ยวกับเส้นเลือดสมอง ป้องกันความเสื่อมระดับโมเลกุลในหลอดเลือด ป้องกันหลอดเลือดเสื่อมจากฮอร์โมนแองกิโอแทนซิน (Angiotensin- ฮอร์โมนที่ทำให้เกิดการหดเกร็งเส้นเลือดและทำให้ความดันเลือดสูงขึ้น) โดยเรสเวอราทรอลจะช่วยให้ร่างกายสร้างฮอร์โมนvasodilatorและไนตริคออกไซด์เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลให้หลอดเลือดขยายตัวและความดันเลือดลดลง

ผลหม่อนยังอุดมไปด้วยวิตามินซี ในผลหม่อน100กรัม ให้วิตามินซีถึง36.4มิลลิกรัม หรือ 61%ของที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน วิตามินซีจากธรรมชาตินับเป็นสารต้านอนุมูลฃอิสระที่ทรงพลังอีกตัวหนึ่ง การรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซีจะช่วยให้ร่างการสร้างกระบวนการต่อต้านเชื้อโรค ลดการอักเสบและป้องกันอันตรายจากอนุมูลอิสระได้ดีขึ้น
ผลหม่อนยังมีวิตามินเอ วิตามินอี ที่ช่วยเป็นแรงเสริมกระบวนการต้านอนุมูลอิสระให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น
การรับประทานผลหม่อนยังช่วยให้ร่างกายได้รับสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่ม ฟลาโวนอยด์โพลี ฟีนอลิค เช่น ลูทีน ซีแซนทีน เบต้า-แคโรทีน และ อัลฟา-แคโรทีน ซึ่งแม้จะมีอยู่เพียงเล็กน้อย แต่ก็มากพออย่างมีนัยสำคัญที่จะทำให้กระบวนการต้านอนุมูลอิสระดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยสารต้านอนุมูลอิสระกลุ่มนี้จะทำงานร่วมกันเพื่อป้องกันอันตรายจากออกซิเจนอนุภาคอิสสระ ที่เม็ดเลือดขาวปลดปล่อยออกมาเพื่อต่อสู้กับเชื้อโรคและสาเหตุให้เซลล์เสื่อมสภาพ
การรับประทานผลหม่อนจึงเท่ากับเป็นการช่วยให้เซลล์เสื่อมช้าลงหรือเป็นการช่วยชลอวัยนั่นเอง
ซีแซนทีน ในผลหม่อนที่รับประทานเข้าไป จะไปรวมกันที่ระบบจอรับภาพในดวงตา ช่วยป้องกันจอรับภาพเสื่อมจากรังสีอัลตราไวโอเล็ต โดยซีแซนทีน จะทำหน้าที่เป็นตัวกรองรังสีเหล่านี้ไม่ให้เข้าถึงและทำลายเซลล์ภายในดวงตาได้

ผลหม่อนเป็นแหล่งรวมของ ธาตุเหล็ก ผลหม่อนสด100กรัมให้ธาตุเหล็กถึง1.85 มิลลิกรัม หรือ23% ของที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน ธาตุเหล็กเป็นองค์ประกอบสำคัญของฮีโมโกลบินในเซลล์เม็ดเลือดแดง ซึ่งฮีโมโกลบินนี้คือตัวนำออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์ต่างๆในร่ายกาย
ผลหม่อนยังเป็นแหล่งรวมเกลือแร่ที่ประโยชน์ต่อร่างกายอีกหลากหลาย ทั้งโปแตสเซียม แมงกานีสและแมกนีเซียม โดยโปแตสเซียมจะช่วยควบคุมปรับจังหวะการเต้นของหัวใจให้เป็นปกติ ควบคุมความดันเลือด แมงกานีทำงานร่วมกับแร่ธาตุอื่นในการต้านอนุมูลอิสระโดยเฉพาะSuperoxide Dismutase หรือ SOD สารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพในการบำรุงผิวพรรณ


ผลหม่อนเป็นแหล่ง วิตามินบีรวม โดยเฉพาะวิตามินบี 6 และวิตามินเค ไนอะซิน ไรโบฟลาวิน และกรดโฟลิค วิตามินและแร่ธาตุในกลุ่มนี้ร่วมกันทำงานในกระบวนการเผาผลาญสารอาหารประเภท คาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น